ทักษะสำคัญของผู้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลมีอะไรบ้าง

หากคุณต้องการที่จะจ้างคนมาทำหน้าที่สำหรับบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลในองค์กรของคุณ หรือหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังหางานในด้านนี้อยู่ คุณควรรู้ว่าการทำงานในด้านนี้นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่คนทั่วไปเห็น ซึ่งคุณไม่สามารถเลือกใครสักคนมาทำงานตำแหน่งนี้ได้เพียงเพราะเขามีความสามารถในการทำตนเองให้เป็นที่นิยมชมชอบ แต่ยังจำเป็นต้องมีทักษะอื่นๆ ที่สำคัญต่อการบริหารบุคลากรในองค์กรด้วย ทักษะสำคัญของผู้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลมี 10 ข้อ คือ

ข้อมูลเนื้อหาในหัวข้อนี้

1. มีทักษะทางคณิตศาสตร์และสถิติ

ทักษะทางวิชาคณิตศาสตร์เป็นทักษะที่หลายคนมักจะมองข้ามไปเมื่อพูดถึงงานด้านการบริหารจัดการ แต่ในความเป็นจริงแล้ว งานด้านการบริหารก็จะต้องใช้หลักการทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยเช่นกัน เพราะผู้ทำหน้าที่นี้จะต้องมีความสามารถในการคำนวณจำนวนเงินเพื่อใช้ในการว่าจ้างพนักงงาน จะต้องมีการทำรายงานเพื่ออธิบายถึงหลักการในการทำงาน ความเป็นไปได้ทางสถิติ ทักษะความรู้ในด้านนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามหรือหลีกเลี่ยงไปได้

2. รู้จักแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว

การรู้จักแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ชีวิตมีความสุข ไม่ใช่เพียงแค่งานในด้านการบริหารจัดการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการทำงานในด้านอื่นๆ ด้วย ผู้ที่สามารถแยกแยะระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้ จะช่วยให้มีความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตตนเองได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดการงานของตน ทำให้สามารถบริหารทรัพยากรบุคคลได้เป็นอย่างดี

3. รู้จักความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ความเห็นอกเห็นใจเป็นสิ่งที่จะช่วยเยียวยารักษาความรู้สึกของบุคลากรในองค์กรได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องรู้สึกชอบใจทุกคนรอบข้าง แต่การเรียนรู้ที่จะรับฟังผู้อื่นอย่างเข้าอกเข้าใจจะช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานด้านบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล การสนใจรับฟังปัญหาของพนักงงานอย่างห่วงใย เข้าใจ และเห็นอกเห็นใจต่อความรู้สึกของพวกเขา สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น ถึงแม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะไม่ได้ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาอะไร แต่การมีใครสักคนรับฟังก็จะทำให้พวกเขาได้รู้ว่าพวกเขายังมีบริษัทเป็นที่พึ่งทางใจได้เสมอ

4. มีความรู้ด้านกฎหมาย

ความรู้ทางด้านกฎหมายเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งที่ผู้บริหารจัดการบุคคลจะต้องมี ไม่จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ลึกซึ้งถึงขั้นเป็นทนายความ แต่ต้องมีความรู้พอที่จะตัดสินใจและดำเนินงานของตนให้เป็นไปตามกฎหมายได้อย่างถูกต้องเหมาะสม มีความรู้ทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการว่าจ้างงาน กฎหมายการทำงาน จำนวนวันและเวลาพักที่พนักงานแต่ละคนต้องได้รับ และไม่ทำการจ้างงานที่ขัดกับกฎหมาย

5. สามารถทำงานหลายงานพร้อมกันได้

งานในด้านบริหารจัดการเป็นงานที่ใช้ความรับผิดชอบสูงมาก จึงเป็นงานที่มีความหลากหลายในหน้าที่การทำงาน ผู้ที่จะทำงานในด้านนี้จะต้องมีทักษะหลายด้าน และมีความสามารถพอที่จะบริหารงานแต่ละอย่างในเวลาเดียวกันได้อย่างดี เพื่อที่จะสามารถดำเนินงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. รู้จักและเข้าใจเกี่ยวกับการประกันสุขภาพ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ

การมีความรู้และความเข้าใจในสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน เป็นสิ่งที่จะช่วยให้การจ้างงานเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น เพราะบางครั้งบริษัทอาจไม่ได้จ้างงานด้วยการให้เงินเดือนเพียงอย่างเดียว แต่มีสิทธิประโยชน์อื่นๆ สำหรับพนักงานของพวกเขาด้วย ดังนั้น ผู้ทำงานด้านนี้จะต้องมีความรู้พอที่จะช่วยให้พนักงานแต่ละคนสามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จากสิทธิที่ตัวเองมีได้อย่างเต็มที่ เพื่อที่จะช่วยให้บุคลากรได้รับประโยชน์ที่มีอย่างสูงสุด

7. มีทักษะในการรับสมัครและจ้างพนักงาน

การเลือกหาพนักงานที่เหมาะสมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรเป็นหน้าที่สำคัญของผู้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ผู้ทำงานในด้านนี้จึงควรมีทักษะในการคัดเลือกคน มีความรู้ความเข้าใจในการพิจารณาถึงบุคคลที่เหมาะกับตำแหน่งต่างๆ สามารถจัดการการรับสมัครงานได้อย่างดี มีความมืออาชีพในการว่าจ้างงาน ซึ่งการเลือกจ้างคนที่ดีจะช่วยทำให้การดำเนินงานขององค์กรเป็นไปด้วยดีเพราะมีบุคลากรที่มีคุณภาพ

8. สามารถบริหารจัดการคนได้เป็นอย่างดี

การบริหารจัดการคนเป็นหน้าที่ของผู้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคล ผู้ทำหน้าที่นี้จึงควรมีความสนใจต่อพฤติกรรมของพนักงาน สามารถวิเคราะห์ถึงลักษณะนิสัย ความรู้ความสามารถ รวมไปถึงเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของแต่ละคนในองค์กรว่ามีมิตรภาพอันดีหรือมีความขัดแย้งกันเองหรือไม่ ซึ่งหากมีปัญหาใดเกิดขึ้นก็เป็นหน้าที่ที่ผู้บริหารจัดการบุคคลจะต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีความด่างพร้อยในการทำงาน

9. มีดุลยพินิจ

การทำงานให้ดีจะมีต้องมีดุลยพินิจในการทำงาน และรู้จักการเก็บความลับของพนักงานด้วย ซึ่งจำเป็นต้องแยกแยะให้ได้ว่าข้อมูลส่วนไหนในการทำงานที่สามารถแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ และข้อมูลใดเป็นข้อมูลส่วนตัวของพนักงานที่ไม่สามารถบอกเล่าให้ใครฟัง การระมัดระวังและดูแลความลับของพนักงานก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของผู้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเช่นกัน

10. มีเทคนิคในการเลิกจ้างพนักงาน

การเลิกจ้างพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การพูดกับใครสักคนหนึ่งว่า คุณถูกไล่ออก สำหรับผู้บริหารจัดการบุคคลแล้ว ควรจะต้องสนใจความรู้สึกนึกคิดของพนักงานด้วย ซึ่งแม้ว่ากำลังจะเลิกจ้างใครสักคนก็จำเป็นจะต้องสนใจชีวิตของพวกเขาหลังจากนั้น ความสนใจนี้ไม่ได้หมายถึงการตามติดชีวิตพวกเขา แต่หมายถึงการเลือกใช้คำพูดและการแสดงออกอย่างระมัดระวังเมื่อต้องทำการเลิกจ้าง ทำให้พวกเขาแน่ใจว่านี่ไม่ใช่การเลิกจ้างอย่างอยุติธรรม และไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่มีคุณค่าที่จะหางานอื่นต่อไป จะต้องมีความเห็นใจให้พอที่จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หลังถูกเลิกจ้างงาน

การมีทักษะให้พร้อมสำหรับการทำงานด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ รวมถึงประสบการณ์ส่วนตัวร่วมด้วย ซึ่งอาจไม่มีชั้นเรียนหรือหนังสือใดที่จะสามารถสอนให้ได้ จึงยากที่จะหาผู้มีทักษะครบทุกด้านเจอ ผู้ที่ทำงานในด้านนี้บางคนก็ใช่ว่าจะมีทักษะในด้านนี้ครบ แต่การที่มีทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้การบริหารจัดการบุคคลสามารถดำเนินได้อย่างดี จึงเป็นเป็นประโยชน์ต่อผู้มุ่งหวังที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องการประสบความสำเร็จในการทำงาน